วันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2557

พลิกโฉม "พันธุ์ทิพย์" 360องศา ลบภาพ "ตึกคอมพ์" มุ่ง "ไลฟ์สไตล์มอลล์"

Prev
1 of 1
Next
คลิกภาพเพื่อขยาย
updated: 21 เม.ย 2557 เวลา 22:11:36 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
จัดได้ว่าเป็นตึกคอมพ์ยุคบุกเบิก สำหรับ "พันธุ์ทิพย์พลาซ่า" แม้วันนี้ภาพลักษณ์ยังคงอยู่ในใจคนทั่วไป แต่ต้องยอมรับปัจจุบันสินค้าไอทีทั้ง "ฮาร์ดแวร์-ซอฟต์แวร์"มีวางขายตามห้างสรรพสินค้าและช็อปปิ้งมอลล์ทั่วไป จึงไม่จำเป็นต้องดั้นด้นมาถึง "พันธุ์ทิพย์"ที่ขายตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ อีกชื่อเสียงที่ไม่เป็นที่สบอารมณ์ยักษ์ซอฟต์แวร์โลกคงหนีไม่พ้นการเป็น แหล่งซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์

30 ปีผ่านไปเพียงชั่วพริบตา "พันธุ์ทิพย์" ประตูน้ำ ถึงเวลาต้องปรับโฉมครั้งสำคัญเพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคใน ปัจจุบัน ซึ่งไม่เฉพาะรูปโฉมภายในและภายนอกเท่านั้น

"ประชาชาติ ธุรกิจ" มีโอกาสพูดคุยกับ "ยงยุทธ ไชยชนะ" กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทิพย์พัฒน อาเขต จำกัด ถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของห้างไอทียุคแรกไปสู่ยุคใหม่ พร้อมกับการปิดฉากลงของแหล่งขายซอฟต์แวร์ผิดกฎหมาย

- 30 ปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง


คง ต้องบอกว่า มีหลายช่วงเวลา ทั้งเงียบ และคึกคัก ตอนเปิดตึกที่นี่ (ประตูน้ำ) ก็ถือเป็นเรื่องใหม่มากในพื้นที่แห่งนี้ เพราะพันธุ์ทิพย์มาพร้อมสถาปัตยกรรมยุโรปและมีลิฟต์แก้วเป็นที่แรก ๆ และจำหน่ายสินค้าหลากหลาย ทำให้คนแถวนั้น รวมถึงที่อยู่ไกล ๆ พยายามที่จะเดินทางมาห้างนี้ ต่อมาแถวนั้นมีห้างอื่นเปิด ทำให้การแข่งขันเริ่มสูงขึ้น จนสักระยะก็เริ่มเงียบเหงาทำให้ต้องเปลี่ยนมาเป็นให้เช่าพื้นที่ขายสินค้า มือสอง และเริ่มมีโซนขายพระเครื่องเพิ่มขึ้นมา และมาปรับอีกครั้งในปี 2540 มาเป็นห้างสรรพสินค้าด้านไอทีเต็มตัว และคงคอนเซ็ปต์นี้มาจนถึงปัจจุบัน

ผมทำงานที่นี่ตั้งแต่เปิดใหม่ ๆ อาจมีวนไปที่อื่นบ้าง แต่ก็อยู่กับที่นี่มานาน เรียก ว่าเป็นลูกหม้อก็คงไม่ผิด ทำให้พันธุ์ทิพย์เป็นที่ที่ผูกพันที่สุด อยากทำให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง จากที่ไม่เคยปรับปรุงมาเลยนับตั้งแต่เปิดมา 30 ปี

- วางแผนมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว

ใช่ ครับ ที่ช้าไปเพราะอยากทำให้ดีที่สุด จึงต้องออกแบบอย่างดี ตอนนี้มีแปลนอะไรต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว จะเริ่มต้นปรับปรุงในเดือน พ.ค.นี้ คาดว่าจะเสร็จในกลางปีหน้า ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะทำให้พันธุ์ทิพย์ประตูน้ำเปลี่ยนโฉมไปจากเดิม มาก จะมีการแบ่งโซนสินค้าชัดเจนขึ้น ทำให้เป็นไลฟ์สไตล์มอลล์เต็มรูปแบบ

เรื่อง ปัญหาซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ก็น่าจะหมดไป จริง ๆ ในขณะนี้ก็เหลือน้อยมากแล้ว ถ้าปรับโฉมเสร็จ เราพร้อมให้หน่วยงานต่าง ๆ มาสำรวจได้เลยสาขาประตูน้ำจะเป็นแห่งแรกที่ปรับโฉม จากนั้นจะทยอยปรับสาขาอื่น ๆ ที่เหลือ

- มีพันธุ์ทิพย์กี่แห่ง

4 คือ ประตูน้ำ, งามวงศ์วาน, บางกะปิ และเชียงใหม่ แต่ละสาขาจะมีจุดเด่นแตกต่างกันไป เช่น ประตูน้ำเรื่องไอที แต่ด้วยทำเลน่าจะขายได้มากกว่าสินค้าไอที หลังปรับโฉมแล้วคาดว่าจะดึงคนเข้ามาเพิ่มขึ้นได้มากกว่า 20,000 คน/วัน

สาขา งามวงศ์วานเด่นเรื่องพระเครื่อง เป็นสาขาที่มีคนเข้ามากที่สุด 35,000 คน/วัน บางกะปิเด่นเรื่องแฟชั่น แต่พื้นที่เล็กกว่าที่อื่นจึงมีคนเข้าประมาณ 5,000 คน/วัน ส่วนเชียงใหม่เป็นอีกทีมบริหาร เพื่อโฟกัสตลาดต่างจังหวัด

- ร้านค้าเห็นด้วยกับการรีโนเวต

เห็น ด้วย แต่ผมเข้าไปคุยกับพวกเขาอย่างใกล้ชิด เพื่อดูว่าเขาขายอะไรบ้าง เข้ากับคอนเซ็ปต์ใหม่ของพันธุ์ทิพย์หรือไม่ ที่สำคัญกลุ่มที่มีสัญญาเซ้ง 30 ปี จะสิ้นสุดในเดือน ก.ย.นี้ เรากำลังพิจารณาว่าจะให้ขายต่อได้หรือไม่ เนื่องจากเป็นคู่ค้ากันมานาน โดยระหว่างที่มีการรีโนเวตจะไม่มีการปิดศูนย์การค้าแต่อย่างใด เพราะงานก่อสร้างทั้งหมดจะทำในช่วงกลางคืนทั้งภายนอกและภายใน

สิ่ง ที่จะทำไม่ใช่แค่รีโนเวต เราจะทำเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซขึ้นมาด้วย โดยนำเว็บเดิม www.pantipplaza.com มาปรับปรุงใหม่ โดยจะนำสินค้าของแต่ละร้านในพันธุ์ทิพย์มาขึ้นเว็บ เพื่อจำหน่ายราคาพิเศษ เชื่อว่าด้วยความเชี่ยวชาญด้านไอทีของแต่ละร้านค้าจะทำให้เว็บเราได้เปรียบ กว่าเว็บอื่นที่ขายสินค้าประเภทเดียวกัน

เรามีแผนจะโปรโมตเว็บให้ เป็นที่รู้จักก่อนที่จะเปิดระบบอีคอมเมิร์ซ โดยระบบทั้งหมดของเว็บไซต์ บริษัท ทีซีซี เทคโนโลยี ซึ่งเป็นบริษัทในเครือจะเข้ามาช่วยพัฒนา

- โฉมใหม่พันธุ์ทิพย์เกาะเทรนด์สมาร์ทดีไวซ์


จริง ๆ ทุกสาขาก็มีสมาร์ทโฟนและแท็บเลตเข้ามาขายเยอะขึ้นอยู่แล้ว เราไม่ได้มีแค่คอมพิวเตอร์อีกต่อไป ที่สำคัญสาขาประตูน้ำจะมีโซนขายโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่มากบริเวณชั้นลอย ซึ่งมีกลุ่มผู้ค้าที่ขายโทรศัพท์มือถือในมาบุญครองจะมาเหมาพื้นที่ไปทำ แต่ผมขอให้เขารอก่อน เพราะเรากำลังจะรีโนเวตพื้นที่ทั้งหมดจึงอยากปรับปรุงพื้นที่ให้เสร็จเรียบ ร้อยก่อน

- การแข่งขันของตึกคอมพ์ในปัจจุบัน

ผมมีโอกาสคุยกับ ตึกคอมพ์ทุกเจ้า ทั้งเซียร์ รังสิต และฟอร์จูนทาวน์ แต่ละรายบอกตรงกันว่า ต้องแข่งกับตนเอง เพราะตอนนี้ตลาดไอทีกำลังตก ผู้ค้าในตึกหลายรายปรับตัวไม่ทัน เราก็ต้องปรับปรุงเพื่อดึงดูดผู้เช่าและจูงใจผู้ซื้อให้เข้ามา แม้การซื้อสินค้าไอทีจะซื้อที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าปลีกรายใหญ่ที่กระจายไปตามห้างต่าง ๆ แต่ตึกคอมพ์ก็ยังเป็นจุดแรก ๆ ที่ผู้บริโภคนึกถึง เมื่อต้องการสินค้าไอที

ใน อนาคตไม่แน่ว่าตึกคอมพ์แต่ละแห่งจะร่วมมือกัน ผมอยากให้ทุกตึกจัดงานลดราคาหรือทำเป็นมหกรรมไอทีพร้อมกันสักครั้ง เพื่อกระตุ้นมู้ดจับจ่าย ผู้บริโภคจะได้รู้ว่าไอทียังไม่หายไปไหน มีการคุยกันไปบ้างแล้ว แต่ยังจัดไม่ได้เพราะเวลาไม่ตรงกัน บางแห่งอยู่ระหว่างปรับปรุงพื้นที่ แต่เชื่อว่าคงได้เห็นความร่วมมือสักครั้งเร็ว ๆ นี้

- ตลาดไอทีปีนี้

คง แบ่งไประหว่างคอมพิวเตอร์กับสมาร์ทดีไวซ์ คอมพิวเตอร์คงลดความนิยมลงเรื่อย ๆ แต่ไม่ใช่ตายไปเลย ยังไงการทำงานหลักก็ต้องใช้คอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นเดสก์ท็อป หรือโน้ตบุ๊ก ส่วนสมาร์ทดีไวซ์ เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเลต ยอดขายเพิ่มแน่ ๆ สมาร์ทโฟนจะมีหลากหลายราคา จากเดิมมีแต่แพง ๆ

ส่วน แท็บเลตรุ่นราคาถูกจะเสื่อมความนิยม เพราะทุกคนรู้แล้วว่า ใช้งานได้แค่ไหน จึงจะเหลือแต่แท็บเลตที่มีแบรนด์และราคาระดับกลางขึ้นไป

ป.ป.ส. พร้อมกำลังตำรวจ ยึดทรัพย์เครือข่าย “เจ๊เพ็ญ“ กว่า 100 ล้านบาท

ป.ป.ส. พร้อมกำลังตำรวจ ยึดทรัพย์เครือข่าย “เจ๊เพ็ญ“ กว่า 100 ล้านบาท
นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com
วันที่ 23 เมษายน 2557 พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ  พร้อมด้วย พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี และตำรวจสืบสวนตำรวจภูธร ภาค 7 เข้าจับกุม นางสาวรจนา หรือ แจ้ พงษ์ศักดิ์ขจร ผู้ต้องหาคนที่ 6 ในเครือข่ายของ นางสุชาดา ทวยภา หรือเจ๊เพ็ญ (ผู้สั่งการในคดี ด.ต.มนัส เสือโพธิ์ ที่ถูกจับกุมในคดียาบ้า 1.28 ล้านเม็ด ไอซ์ 5 กก. เมื่อ 22 ตุลาคม 2555) โดยปัจจุบัน "เจ๊เพ็ญ" อยู่ระหว่างหลบหนีหมายจับของ สภ.งาว จ.ลำปาง ไปอาศัยอยู่ฝั่งท่าขี้เหล็ก ของประเทศเมียนมาร์ และยังคงลักลอบส่งยาเสพติดเข้ามาทางภาคตะวันตกของไทยโดยผ่านกลุ่มกะเหรี่ยงอย่างต่อเนื่อง
สำหรับการเข้าจับกุมในครั้งนี้ ได้มีการยึดทรัพย์ของเครือข่าย"เจ๊เพ็ญ" กว่า 100 ล้านบาท ประกอบด้วยบ้านพักอาศัยหลังใหญ่เลขที่ 97/3 ม.7 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เงินในบัญชีธนาคาร 3 บัญชี โคพันธุ์เนื้อ 8 ตัว รถบัสโดยสาร 1 คัน รถยนต์เก๋ง 2 คัน รถจักรยานยนต์ 3 คัน อาวุธปืน 7 กระบอก ทองรูปพรรณหนัก 100 บาท และเงินสดกว่า 200,000 บาท
ส่วน น.ส.รจนา พงษ์ศักดิ์ขจร ผู้ต้องหารายล่าสุด (คนที่ 6) ที่ถูกจับกุมได้ในที่เกิดเหตุ เป็นการจับตามอนุมัติของ เลขาธิการ ป.ป.ส. ในข้อหาสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และสนับสนุนช่วยเหลือผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 มีโทษเท่าตัวการ โดยในคดีนี้มีระวางโทษสูงสุดประหารชีวิต
ทั้งนี้ สำหรับผู้ต้องหาอีก 5 คน ที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ ประกอบด้วย
1. น.ส. หนึ่งฤทัย นวมอารีย์ ที่อยู่ 93/1 ม.2 ต.นางแก้ว อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
2. นางสมควร สุขธร ที่อยู่ 1/15 ม.1 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา
3. นายกิตติ ท้วมทอง ที่อยู่ 700/1 ม.8 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี
4. น.ช.โสรส หรือโอ พงษ์ศักดิ์ขจร ต้องขังอยู่ในเรือนจำเขาบิน เป็นผู้สั่งการ
5. น.ส.ดวงใจ นวมอารีย์ ที่อยู่ 93/1 ม.2 ต.นางแก้ว อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
โดย 3 คนแรก ถูกจับกุมได้เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2556 พร้อมของกลางไอซ์ ประมาณ 650 กรัม พยายามลักลอบนำเข้าไปในเรือนจำกลางเขาบิน ตามคำสั่งซื้อของ น.ช.โสรส พงษ์ศักดิ์ขจร นักโทษยาเสพติดในเรือนจำเขาบิน ซึ่งเป็นสามีของ น.ส.หนึ่งฤทัย (ผู้ต้องหาคนที่ 1) โดยนายโสรส ถูกจับกุมในคดียาเสพติดเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2549 พร้อมพวกรวม 3 คน ของกลางยาบ้า 2,479 เม็ด ที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี และขณะอยู่ในเรือนจำก็ยังมีพฤติการณ์สั่งยาเสพติดโดยให้ญาติและผู้ใกล้ชิดลักลอบนำเข้ามาให้จนถูกจับกุมได้ในที่สุด
สำหรับผู้ต้องหาคนที่ 4 และ 5 เลขาธิการ ป.ป.ส. จึงได้อนุมัติให้จับกุมในข้อหาสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และสนับสนุนช่วยเหลือผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 เช่นเดียวกับ น.ส.รจนา ผู้ต้องหาคนที่ 6 ที่ถูกจับกุมได้ในที่เกิดเหตุในวันนี้

ขอบคุณภาพและข่าวจาก fm91bkk.com


อาถรรพ์งูเห่า! ชาวบ้านเชื่อแรงเจ้าที่ จ่อทำบุญขอขมา

อาถรรพ์งูเห่า! ชาวบ้านเชื่อแรงเจ้าที่ จ่อทำบุญขอขมา
นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com
(แฟ้มภาพข่าว)
จากกรณีปรากฏการณ์สุดประหลาดที่เกิดขึ้นที่บ้านใน จ.สุพรรณบุรี ของ นายสมชาย โชติยานนท์ กว่า 20 ตัวต่างพากันเลื้อยเข้าบ้านไม่เว้นแต่ละวัน ได้สร้างปัญหาและความหวาดผวาให้กับผู้อยู่อาศัย จนมีการไล่ตีงูเห่าที่ลุกล้ำเข้ามาให้พื้นที่บ้านเสียชีวิตไปแล้วหลายตัว ตามที่ได้รายงานข่าวไปแล้วเบื้องต้นนั้น
ล่าสุด นายสมชาย เจ้าของบ้านหลังดังกล่าวเตรียมจัดพิธีทำบุญและขออโหสิกรรมเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับคนในครอบครัว ซึ่งเชื่อว่างูเห่าจำนวนมากที่เลื้อยเข้ามา อาจจะเป็นงูเจ้าที่เจ้าทาง นายสมชาย เปิดเผยว่า นับตั้งแต่มีเหตุการณ์งูเห่าเลื้อยเข้าบ้าน เกิดการตีงูเห่าให้ตายไปแล้ว 30 ตัว อีกทั้งยังมีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้นตามมา เช่น ถูกงูตามมากัด หม้อแปลงไฟฟ้าระเบิดใส่ หรือเกือบโดนรถจักรยานยนต์เฉียวชน ทำให้ขณะนี้เกิดความรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก
นายสมชาย ยังเปิดเผยอีกว่า งูเห่าที่เลื้อยกันเข้ามาในบ้าน เชื่อว่าอาจจะเป็นลูกหลานของงูเจ้าที่เจ้าทางที่ตนเคยตีตายไปก่อนหน้านี้ งูเห่าเหล่านี้อาจจะโกรธแค้น จึงได้เลื้อยเข้ามาเพื่อตามรังควาน ทั้งนี้เหตุการณ์เริ่มทุเลาเบาบางลง หลังจากที่ตนได้จุดธูปขอขมาบอกกล่าวงูเห่าที่ถูกตีตายไปแล้ว แม้จะยังคงมีงูเห่าเลื้อยออกมาจากพงหญ้าข้างบ้าน แต่ก็ไม่ได้เลื้อยเข้ามาที่บ้านตนอีก
ขณะที่ทางด้าน นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสัตว์ ระบุว่า พฤติกรรมของงูเลื้อยเข้าไปในบ้านพักของคนนั้น ส่วนมากเป็นสัญชาตญาณเพื่อหาอาหาร อาจจะเป็นการเข้าไปกินหนูบ้าน โดยธรรมชาติของงูจะไม่เข้าไปทำร้ายมนุษย์ก่อน ยกเว้นแต่จะเป็นการป้องกันตัว เมื่อเห็นว่าตกอยู่ในอันตราย
อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางนายกเทศมนตรีเมืองสุพรรณบุรี เตรียมประสานขออนุญาตเจ้าของพื้นที่รกร้างข้างบ้านหลังที่เกิดเหตุ ซึ่งเชื่อว่าพื้นที่นั้นน่าจะมีรังงูเห่าอยู่จริง เพื่อทำความสะดวกและเคลียร์พื้นที่ให้โล่งเตียน สร้างความมั่นใจแก่ประชาชน ขณะที่ชาวบ้านพื้นที่ใกล้เคียงก็ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า น่าจะเป็นเหตุอาถรรพ์หรือความอาฆาตแค้น ขณะที่บางกลุ่มก็สืบส่องหาตัวเลข เพื่อนำไปเสี่ยงโชคต่อไป

โฆษณาเสื้อโปโล

เสื้อสกรีน ขายส่งเสื้อยืด คอกลม เสื้อยืดขายส่ง