นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เหตุการณ์เครื่องบินของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ MH17 ประสบเหตุตกลงสู่พื้นที่ในประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทำให้เกิดความตึงเครียดกัลบรรดาประเทศนานาชาติ มีปฏิกิริยาของผู้นำที่มีพลเมืองของตัวเองอยู่บนเที่ยวบินดังกล่าว พร้อมกับตั้งคำถามว่า "ผู้ใดยิงเครื่องบิน MH17 ตก?"
ตามรายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและหน่วยงานด้านความมั่นคงของยูเครน ได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐานในจุดที่เครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ MH17 ตกในเขตแคว้นโดเนทส์ ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มแบ่งแยกดินแดน ทั้งนี้ผู้นำกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ยึดอำนาจในแคว้นโดเนทส์ ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับเหตุโศกนาฏกรรมในครั้งนี้ พร้อมกล่าวโทษกองทัพอากาศของยูเครน ว่าเป็นฝ่ายที่ยิงเครื่องบินตก
นายหลิว ตอง ไหล รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมของมาเลเซีย ประณามการยิงเครื่องบินของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ ซึ่งทางสายการบินได้ส่งเจ้าหน้าที่ประมาณ 40 คน ไปกรุงอัมเตอร์ดัมส์ ประเทศเนเธอร์แลนด์เพื่อช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิต นอกจากนี้ยังระบุว่าเส้นทางบินดังกล่าว เป็นเส้นทางที่สายการบิน 15 แห่ง ซึ่งเป็นสมาชิกของสายการบินแห่งเอเชียแปซิฟิค ใช้เป็นประจำและบินผ่านน่านฟ้ายูเครน นักบินของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ ไม่เคยได้รับการแจ้งเตือนให้เปลี่ยนเส้นทางแต่อย่างใด
นายโทนี่ แอ็บบ็อต นายกรัฐมนตรีของออสเตรเลีย ไม่พอใจท่าทีของรัสเซีย ที่กล่าวโทษรัฐบาลยูเครนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งมีชาวออสเตรเลียเสียชีวิต 28 คน การตอบสนองของรัสเซียเป็นสิ่งที่ไม่น่าพึงพอใจอย่างมาก
นายอาร์เซนี่ย์ ยัทเซนยุค นายกรัฐมนตรีของยูเครน เรียกร้องให้นานาชาติช่วยกันนำผู้ก่ออาชญากรรมมาดำเนินคดี พร้อมแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิตจากวินาศกรรมที่นำโดยรัสเซีย รัฐบาลยูเครนจะสอบสวนเรื่องนี้อย่างเต็มรูปแบบ โดยสำนักงานการบินสากลของยูเครนจะเป็นตัวหลักในการสอบสวน
เช่นเดียวกับ นายบารัค โอบามา ประธาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาแถลงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ระบุว่า เหตุดังกล่าวเป็นโศกนาฏกรรมระดับโลก ทั้งยังทำให้พลเมืองสหรัฐ 1 คนต้องเสียชีวิตจากเหตุที่เกิดเหตุ พร้อมยืนยันว่า เครื่องบินเที่ยวบินที่ MH17 ถูกยิงด้วยจรวดมิสไซล์
ขณะที่ทางด้านผู้เชี่ยวชาญเปิดเผยว่า จรวดต่อต้านอากาศยาน "BUK" ที่เชื่อกันว่ายิงเครื่องบินสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ MH17 ตกนั้น เป็นระบบต่อต้านอากาศยานชั้นสูงที่มีใช้ทั้งในประเทศยูเครนและประเทศรัสเซีย เป็นขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศที่มีพิสัยยิงตั้งแต่ 11,000-25,000 เมตร นำวิถีด้วยสถานีเรดาร์ภาคพื้นดิน มีอานุภาพรุนแรงพอจะยิงเครื่องบินขนาดใหญ่ตกได้ในครั้งเดียว แต่ไม่มีความแม่นยำพอจะแยกแยะความแตกต่างระหว่างเครื่องบินลำเลียงทางทหารกับเครื่องบินพาณิชย์
ทั้งนี้ จรวดต่อต้านอากาศยาน "BUK" อาจจะเป็นยุทโธปกรณ์ที่กองกำลังยูเครนอาจทิ้งระบบต่อต้านอากาศยานนี้ไว้ในช่วงที่ล่าถอยจากภาคตะวันออก ทำให้กลุ่มแยกดินแดนเข้ายึดครองและนำไปพัฒนาใช้งานต่อ ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นยังคงต้องเก็บพิสูจน์หลักฐาน แม้จะยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่า "ผู้ใดยิงจรวดใส่เครื่องบิน" แต่นานาชาติเชื่อว่าเป็นการก่อเหตุที่จงใจและผู้ที่ลงมือทำต้องมีเป้าหมายชัดเจน
