วันพุธที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2557

จวกยับ! สาวโยนแมวใส่เคาน์เตอร์รพ.สัตว์ ก่อนขับรถหนี

จวกยับ! สาวโยนแมวใส่เคาน์เตอร์รพ.สัตว์ ก่อนขับรถหนี
นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com
(21 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกออนไลน์กำลังวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างแพร่หลาย กรณีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสัตว์แห่งหนึ่ง ในจังหวัดชลบุรี เผยแพร่คลิปจากกล้องวงจรปิดพร้อมบรรยายเหตุการณ์ผ่านยูทูป และเว็บไซต์พันทิป ตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมา ตั้งชื่อเรื่องว่า "คนสมัยนี้ทำไมใจร้ายจังคะ โยนแมวได้ขนาดนี้ จิตใจคุณทำด้วยอะไรคะ"
เหตุการณ์ในคลิปปรากฏภาพหญิงสาวคนหนึ่ง เดินอุ้มแมวเข้าไปในรพ.สัตว์ จู่ๆ ก็โยนแมวข้ามเคาน์เตอร์ด้านหน้าที่มีพนักงานนั่งอยู่ ท่ามกลางความตกใจและงุงงของผู้อยู่ในเหตุการณ์ ก่อนที่สาวใจร้ายรายนี้จะเดินไปขึ้นรถออกไป ซึ่งข้อความระบุว่า
'จิตสำนึก' อาจเป็นคำง่ายๆที่บาง­คนไม่เข้าใจ... การที่คุณตัดสินใจเลี้ยงสัตว์ อย่างน้อยๆคุณควรที่จะมีความรับผิดชอบต่อชีวิตเค้า ไม่ใช่พอไม่ต้องการก็โยนทิ้งเหมือนสิ่งของ­นะคะ...
เมื่อวานนี้มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาในโ­รงพยาบาลสัตว์แห่งหนึ่ง แถวพัทยา ซึ่งดิฉันทำงานอยู่ที่นี่ ในตอนแรกคิดว่าคนนี้จะมารักษาสัตว์ตามปกติ แต่อยู่ๆ ก็เปิดประตูเข้ามาแล้ว "โยน" แมวข้ามเคาท์เตอร์มาตกลงบนเก้าอี้ โครม!!! แล้วขับรถหนีไปอย่างรวดเร็ว...
คือที่นี่เป็นโรงพยาบาลสัตว์ มีไว้สำหรับรักษาสัตว์นะคะ ไม่ใช่สถานสงเคราะห์สัตว์เลี้ยงที่คุณไม่ต­้องการแล้ว... แล้วโยนแมวเข้าร้านมาขนาดนี้ แมวนะคะไม่ใช่ลูกบาสเกตบอล อีกนิดแล้วก็จะลงถังขยะแล้วค่ะ
ถ้าคุณเอาแมวมาวางไว้ดิฉันยังไม่รู้แย่ขนาดนี้ แต่นี่คือคุณ...โยน....แมว แมวไม่ได้มีปีกเหมือนนกนะคะ แต่ยังดีที่ร้านเพิ่งซ่อมกล้องวงจรปิดไปเล­ยจับภาพของผู้หญิงใจร้ายคนนี้พร้อมเลขทะเบ­ียนรถไว้ได้ค่ะ
ฝากไว้นิดนึงนะคะ ...ว่าสัตว์เค้าก็มีชีวิตมีความรู้สึกเหมื­อนเรา ถ้าไม่ได้รักเค้าก็อย่าไปทำร้ายเค้าเลยค่ะ­..."
ล่าสุด เจ้าของเรื่องได้อัพเดทเหตุการณ์ดังกล่าว ระบุว่า ตอนนี้ได้แจ้งความกับตำรวจและทราบชื่อของบุคคลในกล้องวงจรปิดแล้วค่ะ สำหรับท่านที่สงสัยว่าโกรธคนในร้านหรือเปล่านะคะ จากการตรวจสอบชื่อได้รับมา ไม่พบว่าเป็นเจ้าของสัตว์ที่เคยมารักษาที่นี่ค่ะ ส่วนน้องแมวนะคะ ได้ติดต่อกับทางบุคคลที่สนใจจะอุปการะแล้วค่ะ ทางร้านจะถ่ายพยาธิ ฉีดวัคซีน และทำหมันให้ค่ะ

ระทึก! หลังคาปั๊มน้ำมันถล่มทับรถ ครูผัวเมียเฉียดตาย

ระทึก! หลังคาปั๊มน้ำมันถล่มทับรถ ครูผัวเมียเฉียดตาย
นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com
(20 ส.ค.) เมื่อเวลา 20.30 น. มีรายงานว่า มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์ นครปฐม รับแจ้งขอความช่วยเหลือเหตุหลังคาปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ริมถนนทรงพล เลขที่ 81/2 ริมถนนทรงพล อ.เมืองนครปฐม พังถล่มลงมาทับรถยนต์ หลังจากรับแจ้งแล้วได้ระดมเจ้าหน้าที่มูลนิธิออกตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุนั้นเป็นปั๊มน้ำมันบางจากกรีนเนส สาขานครปฐม ตั้งอยู่ในเนื้อที่ 2 ไร่เศษ เป็นปั๊มน้ำมันยุคใหม่ เซลฟ์เซอร์วิส แบบบริการด้วยตนเอง โดยมีตู้หยอดเงินอยู่ด้านข้างตู้หัวจ่าย มีทั้งหมด 6 หัวจ่าย พบว่าหลังคาถล่มจนเอียงลงมาข้างหนึ่งทับรถยนต์เก๋ง โตโยต้าอัลตีส สีขาว ทะเบียน 1 กฆ-2539 กรุงเทพฯ ที่ด้านหน้ารถห่างจากที่นั่งคนขับไม่ถึง 1 เมตร กระจกหน้ารถแตกกระจาย
นายกฤช สมจิตต์ อายุ 46 ปี อาจารย์สอนโรงเรียนสารสาสน์วิเทศน์ ต.ดอนยายหอม อ.เมืองนครปฐม เจ้าของรถเผยว่า ตนมาเติมน้ำมันที่ปั๊มแห่งนี้ประจำ ขณะเกิดเหตุตนกำลังหยิบหัวจ่ายน้ำมันมาเติม ได้ยินเสียงดังแอ๊ดก่อนที่หลังคาจะหักเอียงลงมาทับรถ โชคดีที่ไม่มีรถคันอื่นเข้ามาเติมน้ำมัน หากถ้าเป็นช่วงปกติที่ฝนไม่ตก คงมีคนมาเติมน้ำมันเยอะอาจจะกลายเป็นโศกนาฎกรรมwfh ไม่เข้าใจว่ามันถล่มลงมาได้อย่างไร แต่เมื่อเห็นสภาพแล้วก็แปลกใจว่าตนและภรรยารอดมาได้อย่างไร หากขยับรถเดินหน้าไปนิดเดียวคงมีคนเจ็บหรือเสียชีวิต
ด้านนางอริยา สมจิตต์ อายุ 45 ปี อาจารย์โรงเรีนมารีย์อุปถัมภ์ อ.สามพราน จ.นครปฐม ที่รอดชีวิตมาอย่างหวุดหวิดจากเหตุการณ์ดังกล่าวเผยวินาทีเฉียดตาย ว่า ก่อนเกิดเหตุฝนตกลงมาอย่างหนัก ตนเองกับสามีกลับจากทำธุระเลยแวะเติมน้ำมัน เมื่อจอดรถสามีก็ลงจากรถเพื่อไปหยอดเงินเติมเข้าตู้และเติมน้ำมันเอง ระหว่างนั้นตนเองนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ในรถที่นั่งด้านหน้า จู่ๆก็ได้ยินเสียงดังแอ๊ดหลังคาก็หล่นลงมาดังโครมที่ด้านหน้าฝากระโปรงจนรถกระดอนกระจกหน้าแตกประตูหน้าเปิดไม่ได้ ส่วนสามีก็วิ่งหนีตายไปด้วย สามีได้สติได้วิ่งเข้ามาที่รถแล้วตะโกนให้หาทางออกโดยคลานออกด้านประตูหลังเพราะกลัวจะระเบิด เมื่อคลานออกมาได้วิ่งหนีตายไปตั้งหลัก
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุ พนักงานปั๊มน้ำมันได้แจ้งไปยังบริษัทบางจาก กรีเนส สำนักงานใหญ่ ซึ่งได้รับแจ้งว่าจะขอรับผิดชอบในความเสียหายทั้งหมด และจะเดินทางมาพร้อมวิศวกร ตรวจสอบโครงสร้างเพื่อหาสาเหตุของหลังคาที่ถล่มลงมาว่าเกิดจากอะไร คานเสารับน้ำหนักหลังคาพอหรือไม่ ซึ่งแบบที่สร้างนั้นจะเหมือนกันทั่วประเทศ จะเดินทางมาตรวจในวันรุ่งขึ้น ส่วนนายกฤชและนางอริยา สองสามีภรรยา ยังไม่ประสงค์ที่จะแจ้งความต้องรอผลการเจรจากับทางบริษัทตามข้อเรียกร้องก่อน

ในหลวงพระราชทานความช่วยเหลือ “น้องเขียว“ ด.ญ.วัย 12 ถูกทิ้งลำพัง

ในหลวงพระราชทานความช่วยเหลือ “น้องเขียว“ ด.ญ.วัย 12 ถูกทิ้งลำพัง
นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com
(20 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายดิสธร วัชโรทัย ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ มอบหมายให้ นายเกรียงเดช วัฒนวงษ์สิงห์ ปลัดจังหวัดอุบลราชธานี และนางศรีนภา สวัสดิกุล เจ้าพนักงานพัฒนาสังคมชำนาญงาน สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดอุบลราชธานี เดินทางไปรับตัว ด.ญ.พิสมัย หรือ น้องเขียว งอกสุข อายุ 12 ปี เด็กหญิงที่อาศัยอยู่บ้านเพียงลำพัง ไม่เจอหน้าพ่อแม่มากว่า 10 ปี ที่ โรงเรียนบ้านคำหมาในร่องเข ตำบลนาเลิน อำเภอศรีเมืองใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อนำเด็กหญิงพิสมัย มาพักอาศัยชั่วคราว อยู่ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอุบลราชธานี ในระหว่างการประสานงานเข้าศึกษาต่อ ที่ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 32 ต.ไร่น้อย อ.เมืองอุบลราชธานี ในวันจันทร์ ที่ 25 สิงหาคม
เมื่อมาถึงบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอุบลราชธานี นายณัฐคณิน มาลาสาย หัวหน้า บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอุบลราชธานี และคณะเจ้าหน้าที่ประจำบ้านพักมาช่วยรับตัวเด็กไว้ในความดูแล พร้อมกล่าวว่า เด็กหญิงพิสมัย จะอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็ก โดยจะมีการจัดที่พักเป็นห้องนอนรวม 3 เตียง มีอาหารครบ 3 มื้อ พร้อมจัดนักจิตวิทยา มาคอยพูดคุย เพื่อปรับสภาพฟื้นฟูจิตใจของเด็กหญิงพิสมัย ซึ่งเด็กหญิงพิสมัยจะพักอาศัยอยู่ที่บ้านเด็กนี้ 5 วัน ในช่วงเช้าวันที่ 25 สิงหาคม ทางบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอุบลราชธานี จะนำตัวเด็กหญิงพิสมัย ไปส่งที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 32 เพื่อศึกษาเล่าเรียนต่อไป
ด้าน นายพันคำ ศรีพรม ผอ.ร.ร.ราชประชานุเคราะห์ 32 อุบลราชธานี เปิดเผยว่า ทางมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ได้ให้ความอนุเคราะห์เด็กหญิงพิสมัย ให้ศึกษาเล่าเรียน ที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 32 ซึ่งจะมีทุนการศึกษา จนกว่าเด็กหญิงพิสมัยจะเรียนได้สูงสุด โดยทางโรงเรียนมีที่พัก และอาหาร พร้อมครูคอยดูแลอย่างใกล้ชิด โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
ขณะที่ ด.ญ.พิสมัย กล่าวว่า ปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณที่ทำให้ได้มีชีวิตใหม่ สัญญาว่าจะตั้งใจเรียนหนังสือ และเป็นคนดีของสังคม และจะเรียนให้ได้สูงที่สุดโดยตนใฝ่ฝันจะเป็นหมอเพื่อมาช่วยเหลือผู้อื่นด้วย
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบทราบว่า น้องเขียวมีญาติคือยายและน้าชาย แต่มีอาการทางประสาทอาศัยอยู่กระท่อมปลายนา จึงส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแล ส่วนพ่อแม่ของน้องเขียวทำงานก่อสร้างอยู่ที่ จ.ชลบุรี

โฆษณาเสื้อโปโล

เสื้อสกรีน ขายส่งเสื้อยืด คอกลม เสื้อยืดขายส่ง